รีวิวหนังสือวางแผนปลูกมะละกอให้ออกช่วงแพง
สารภาพตามตรงว่าตอนแรกกะจะมาหาหนังสือการปลูกมะละกอแบบอินทรีย์ เพราะอยากลองปลูกดูบ้างว่าจะเป็นยังไง จนแล้วจนรอดก็ไม่เจอครับ แล้วก็มาเจอเล่มนี้ที่สะดุดตาด้วยสีเหลืองเห็นมาแต่ไกลกับคำโปรยหน้าปกที่บอกว่า เล่มเดียวสุดคุ้ม ปลูกมะละกอให้รวยอย่างมืออาชีพ พลิกดูด้านในคร่าว ๆ ก็ตัดสินใจถือกลับบ้าน 2 เล่มพร้อมกับหนังสือคู่มือการปลูกผักอินทรีย์อย่างมืออาชีพ ที่ผมเขียนรีวิวไว้ที่ link นี้ครับ ส่วนเนื้อหาเรื่องการปลูกมะละกอจะแบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ส่วนที่พูดถึงการปลูกมะละกอที่เป็นขั้นพื้นฐานความรู้ต่าง ๆ และส่วนที่ 2 คือเรื่องราวของผู้ที่ปลูกมะละกอจนประสบความสำเร็จที่มาแชร์เรื่องราวให้ได้ฟัง ว่าแล้วเราไปดูเนื้อหาในแต่ละส่วนกันเลยครับ
1.1 เริ่มด้วยการวิเคราะห์การตลาดก่อนการลงทุน
เป็นความรู้เบื้องต้นก่อนปลูกมะละกอ การส่งออกในประเทศและต่างประเทศ การวิเคราะห์ราคากลางหน้าสวน โดยแบ่งออกเป็น
- การหาตลาดมะละกอสุก
- การหาตลาดมะละกอดิบ (ทำส้มตำ)
- การหาตลาดมะละกอป้อนโรงงาน
- การหาตลาดกับแม่ค้าเจ้าประจำ
ซึ่งผมว่ามีประโยชน์ต่อการตัดสินใจของเราเป็นอย่างมาก เพราะการปลูกเราจะต้องฟันธงว่าจะปลูกมะละกอสุกหรือดิบส่งตลาด และการหาตลาดในพื้นที่ของตนเอง
1.2 ทำความรู้จักกับมะละกอ
โดยจะมีการแนะนำความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับมะละกอ การปลูก ,แหล่งที่มา ,ลักษณะทางพันธุศาสตร์ ,โรคที่สำคัญเกี่ยวกับมะละกอคือโรคใบด่างจุดวงแหวน และยังได้แนะนำพันธุ์มะละกอเพื่อการค้าอีก 12 พันธุ์ เช่น พันธุ์แขกดำ พันธุ์ฮอร์แลนด์ พันธุ์แขกนวล ฯ เรียกได้ว่าจุใจกันเลยทีเดียว
เริ่มตั้งแต่ดินที่ทำให้มะละกอเจริญเติบโตได้ดี อุณหภูมิที่เหมาะกับมะละกอ การให้น้ำและการรับมือกับลม เห็นผมเขียนรายละเอียดน้อย ๆ แบบนี้แต่เนื้อหาในเล่มเยอะมากครับ
มาถึงวิธีปลูกต้องมีการเตรียมดินอย่างไร การเพาะด้วยเมล็ดมี 2 วิธีคือ 1 เพาะในแปลงเพาะหรือเพาะใส่ถุงดำ 2 เพาะลงในแปลงปลูกโดยตรง การปลูกโดยการยกร่องปลูก ระยะห่างกันต้นละ 2.5-3 เมตร และฤดูการปลูกที่จะทำให้ขายได้ช่วงแพง
1.4 การเพาะเมล็ดที่จะทำให้ได้ต้นกล้าที่สมบูรณ์
เนื้อหาส่วนนี้จะเป็นการเลือกเมล็ด การเพาะกล้า การเตรียมต้นกล้ามะละกอตั้งแต่เป็นเมล็ดจนถึงนำลงแปลงปลูกและการดูแลรักษาเรื่องโรค
1.5 การจัดการน้ำและปุ๋ย
ในส่วนนี้จะพูดถึงการให้น้ำและปุ๋ยซึ่งละเอียดมาก แต่ปุ๋ยที่ให้จะเป็นการผสมกันระหว่างอินทรีย์กับเคมีซึ่งผมเห็นว่าเราสามารถปรับประยุกต์ใช้เฉพาะปุ๋ยอินทรีย์ได้ เนื่องจากหาเล่มที่เป็นมะละกออินทรีย์ไม่ได้ เนื้อหาเรื่องการให้ปุ๋ยจะเป็นส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับความรู้เรื่องต่าง ๆ ในเล่มที่เรียกได้ว่าจัดเต็มจริง ๆ
ผมเพิ่งจะรู้ว่าเราจะต้องคัดเลือกต้นมะละกอที่เป็นต้นสมบูรณ์เพศหรือต้นกระเทย ซึ่งจะทำให้ผลผลิตตรงตามความต้องการของตลาด ส่วนต้นที่เป็นตัวผู้และตัวเมียเราจะตัดทิ้งหลังจากที่ปล่อยให้ขึ้นมาแล้ว 3-5 เมล็ดในหลุมเดียว โดย 1 หลุมจะเหลือไว้เพียง 1 ต้นเท่านั้น คือต้นกระเทย (ฮาไหมครับ) ผมเพิ่มรู้ว่าเป็นแบบนี้เอง ส่วนวิธีการคัดเลือกและการดูต้นกระะเทยก็มีอยู่ในเนื้อหาส่วนนี้เรียบร้อยแล้วครับ
1.7 โรคที่สำคัญของมะละกอ
พูดถึงโรคของมะละกอที่เกษตรกรหวาดหวั่นไม่น้อยนั่นก็คือ โรคไวรัสจุดวงแหวนหรือโรคใบด่างวงแหวนนั่งเอง โดยเนื้อหาจะอธิบายถึงลักษณะของโรค สาเหตุของโรค การแพร่ระบาด อาการของโรค การป้องกันและกำจัด ซึ่งโรคมะละกอที่กล่าวถึงมีอยู่ด้วยกัน 10 โรค เช่น โรคใบด่างวงแหวน โรครากเน่า ราแป้ง แอนเทศโนส ฯ เรียกได้ว่าปลูกมะละกอแล้วเป็นโรค ก็สามารถเช็คอาการได้ทันทีว่าน่าจะเกิดจากโรคอะไร
มีเทคนิคต่าง ๆ มากมาย ในส่วนนี้ขอข้ามไปเพราะอยากให้หามาอ่านเองครับ คุ้มค่าแน่นอน
1.9 การเก็บเกี่ยวและวิทยาการหลังเก็บเกี่ยว
การดูและเช็ควันเก็บเกี่ยว อายุ ลักษณะผล การเก็บรักษา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือมะละกอสุกและมะละกอดิบ
เราจะได้อ่านเรื่องราวอันน่าทึ่งของแต่ละท่านซึ่งก็จะมีรายละเอียดการปลูก การดูแลรักษาซึ่งจะแตกต่างกันออกไป โดยเนื้อหาเรื่องราวของแต่ละคนก็มีโดยละเอียด
ผมว่าคุ้มค่ามากที่เปรียบเสมือนเราได้เดินทางไปดูไปชมเองและพบประสบการณ์ที่บอกเล่าผ่านเรื่องราวของแต่ละท่าน เนื้อหาหนังสือ 1 เล่มนี้จะพาเดินทางไปพบกับ 14 สวนที่ปลูกมะละกอในระดับประเทศ คิดดูเองว่าคุ้มหรือไม่คุ้มครับ
ข้อดี
เหมาะสำหรับผู้ที่คิดอยากจะเริ่มปลูกมะละกอ เนื้อหาแน่นมาก หรือสำหรับผู้ที่ปลูกมะละกออยู่แล้วอยากได้แนวทางในการต่อยอดเรื่องการทำตลาด
ข้อสังเกต
เนื้อหาโดยส่วนมากจะเป็นหน้าสีขาวดำ แต่ถ้าไม่ซีเรียสก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด
สรุป โดยส่วนตัวติว่าเนื้อหาของการให้ปุ๋ยยังเป็นเคมีอยู่ ผมซึ่งมาด้านสายอินทรีย์ก็ต้องไปปรับให้เข้ากับการปลูกของตนเอง ซึ่งไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใดเมื่อเทียบกับความรู้เรื่องอื่น ๆ ที่จัดเต็มจริง ๆ ครับ
หาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
