รีวิวสวนลุงไกร วังน้ำเขียว
เสียงบรรเลงกีต้าร์ดังขึ้นทันทีหลังจากที่กลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมสวน บุคคลที่กำลังบรรเลงบนเวทีอายุน่าจะไม่ต่ำกว่า 60 ปี บุคคลนั้นนั่งอยู่บนเวทีที่แวดล้อมไปด้วยขาตั้งตัวโน๊ต 2-3 อันรายล้อมอยู่ตรงหน้า เพลงแล้วเพลงเล่าผ่านไป กับนักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มที่ผลัดเปลี่ยนหมุมเวียนกันมาในแต่ละวัน แต่แววตาของบุคคคที่กำลังบรรเลงเพลงอยู่บนเวทีไม่ได้มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย กลับตรงกันข้าม บุคคลผู้นี้ดูมีความสุขที่ได้บรรเลงเสียงดนตรีราวกับโลกนี้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
“ลุงไกร” เป็นชื่อที่ทุกคนเรียก ลุงออกมาต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมสวนผักปลอดสารพิษและบรรเลงบทเพลงอันแสนไพเราะให้เราได้ฟัง สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในอำเภอวังน้ำเขียวซึ่งผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมเป็นครั้งแรก มีที่พักบริการเป็นแบบฟาร์มสเตย์และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ร้านค้าที่นี่ก็จำหน่ายผลผลิตจากทางฟาร์ม ห่างออกไปจากตัวอาคารสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นแปลงผักเมืองหนาวนานาชนิด ผมออกเดินพบว่ามีทั้งหมด 4 แปลง การปลูกผักจะให้ผลผลิตผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกมาจำหน่ายตลอดทั้งปี อีกมุมหนึ่งของสวนเป็นพื้นที่สำหรับเพาะต้นกล้าสำหรับย้ายลงแปลงใหญ่ ขณะที่อีกแปลงคนงานก็กำลังใช้เครื่องจักรยกร่องเพื่อทำการปลูกในรอบต่อไป มองไปเห็นผักเขียวขจีบวกกับลมเย็นสบายจากทิวเขาพัดมากระทบกับใบหน้า ทำให้รู้สึกสบายใจกับบรรยากาศที่กำลังซึมซับอย่างบอกไม่ถูก
สวนสุงไกรแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 15 ไร่ มีผักปลอดสารพิษจำหน่ายตลอดปี และสวนแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น สวนเกษตรศิลปิน เพราะนอกจากจะมีฟาร์มสเตย์และจำหน่ายผักปลอดสารพิษแล้ว สวนแห่งนี้ยังมีการโชว์เพลงสไตล์คันทรี่จากลุงไกรในท่วงทำนอง Take me home ดังก้องกังวาลไปทั้วแปลงผักอีกด้วย ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงต้นเดือนกันยายนเป็นช่วงโลซีซั่น จึงไม่ได้มีไกด์ออกมาแนะนำความรู้เกี่ยวกับแปลงผักที่อยู่รอบนอก แต่ถ้าเป็นช่วงไฮซีซั่นไม่แน่อาจจะมีคนพาชมแปลงผักก็เป็นได้ หรือถ้าไปพักที่นี่ก็อาจได้คุยกับลุงไกรก็เป็นได้ ซึ่งทริปนี้ผมไม่ได้พักที่นี่ครับ ถือว่าเป็นสถานที่อีกแห่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจในวิถีเกษตรอินทรีย์อย่างแท้จริง
สถานที่ในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชศรีมา ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีอากาศดีเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งถ้ามาสวนลุงไกรแล้วก็สามารถขับรถอีก 10 นาทีไปเที่ยวผาเก็บตะวัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง อีกแห่งที่อยู่ในบริเวณนี้คือ Mister mushroom วังน้ำเขียวฟาร์ม ศูนย์เพาะและจัดจำหน่ายเห็ดทั้งสดและแปรรูปนานาชนิด หรือถ้าเป็นสายถ่ายรูปแนะนำที่นี่เลยครับ อยู่อีกฟากทางไปเขาใหญ่คือ A cup of love สถานที่เซลฟี่พร้อมสวนสวย ๆ บวกกับการให้อาหารแกะ ใครที่อยากได้รูปสวย ๆ ไว้อวดเพื่อนแนะนำที่นี่เลยครับ ขากลับแวะนมัสการหลวงพ่อคูณองค์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกและซื้อของฝากที่หน้าวัดกลับบ้าน มีทั้งผักสด ผลไม้ เห็ดนานาชนิดและผลิตภัณฑ์แปรรูปให้เลือกกันจนตาลาย สุดท้ายก็หอบหิ้วของฝากกลับบ้านพรุงพรังกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ผมได้ไปแค่ 2-3 ที่เท่านั้น แต่สถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอวังน้ำเขียวมีเยอะแยะมากมาย ลองค้นหาในอินเทอร์เน็ตดูครับ
เส้นทางสายนี้เป็นสายท่องเที่ยวแบบธรรมชาติจริง ๆ สามารถขับรถจากวังน้ำเขียวทะลุไปเขาใหญ่ได้ หรือถ้ามาจากเขาใหญ่ก็สามารถมาถึงวังน้ำเขียวได้เช่นกัน วันเดียวเที่ยวไม่หมดครับ บอกตามตรง ซึ่งวังน้ำเขียวสามารถตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติเป็นอย่างมาก และคำถามสำคัญที่ผมอยากจะถามทุกคนหลังอ่านรีวิวนี้จบคือ…
หนาวนี้ คุณมีที่เที่ยวรึยัง
ถ้ายังไม่มี วังน้ำเขียวอาจจะเป็นคำตอบครับ