รีวิวหนังสือการเพาะปลูกผักอินทรีย์
อย่างมืออาชีพ
รายละเอียด
บรรณาธิการ : อภิชาติ ศรีสอาด
เรียบเรียง : เกรียงไกร ยอดชมภู
สำนักพิมพ์ : นาคา
ราคา : 120 บาท
เมื่อมีความฝัน จงออกก้าวเดิน
ในปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่สนใจเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ เกิดค่านิยมของคนหนุ่มสาวลาออกจากงานเพื่อมาทำเกษตรที่เราเห็นจนชินตา แต่อาจจะยังไม่มีแนวทางที่จะเริ่มต้นทำว่าจะไปในทิศทางใด วันนี้ผมไปเจอหนังสือมาเล่มหนึ่งที่จะสามารถใช้เป็นแนวทางให้กับผู้ที่อยากปลูกผักแบบอินทรีย์เพื่อเป็นอาชีพหรือปลูกไว้กินเองที่บ้านก็สามารถนำมาเป็นแนวทางได้เช่นกัน
หนังสือเล่มที่ว่านี้คือหนังสือคู่มือการเพาะปลูกผักอินทรีย์ อย่างมืออาชีพ ที่มาสะดุดตากับหน้าปกที่มีรูปผักชนิดต่าง ๆ หัวเรื่องมีตัวหนังสือสีแดงเด่นชัดจากการใช้พื้นหลังสีขาว โดยหนังสือแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
- ส่วนที่ 1 เกษตรอินทรีย์คืออะไร และแนวทางในการทำเกษตรอินทรีย์
- ส่วนที่ 2 การทำปุ๋ยและน้ำหมักในแบบต่าง ๆ
- ส่วนที่ 3 การปลูกผักแบบอินทรีย์ ซึ่งเนื้อหากิน 80 % ของพื้นที่หนังสือ
เนื้อหาการปลูกเล่มนี้มีผักมากกว่า 38 ชนิด เรียกได้ว่าเนื้อหาจุใจมากสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้วิธีปลูกผักแบบอินทรีย์ ไม่รอช้า ผมเห็นว่าดีมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน จึงอยากนำหนังสือเล่มนี้มารีวิวครับ โดย 3 ส่วนนี้ เรามาดูในส่วนแรกกันเลยครับ
ส่วนที่ 1 เรื่องราวของการทำเกษตรอินทรีย์
ต้นเรื่องของหนังสือเล่มนี้จะอธิบายความหมายของเกษตรอินทรีย์ และทำไมเราต้องทำเกษตรอินทรีย์ ชี้ให้เห็นถึงผลเสียของการใช้สารเคมีที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่ตามมา อย่างโรคมะเร็งที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในไทยเป็นอันดับ 3 (ข้อมูลปี 40) ที่เกษตรกรใช้สารเคมีมาเป็นระยะเวลานาน ทั้งยังมีสารตกค้างในผลผลิตที่ส่งไปยังผู้บริโภค โดยสาเหตุของโรคก็มาจากการรับประทานอาหารที่มีสิ่งเจือปนจากสารเคมี
ในหนังสือส่วนแรกนี้ จะมีวิธีการเตรียมตัวสำหรับการปลูกพืชอินทรีย์ ,การเตรียมดิน พื้นที่ ,การบริหารจัดการวางแผนเพื่อเพาะปลูก ,การคัดเลือกพันธุ์ ,การปรับปรุงบำรุงดิน ,เตรียมเมล็ด ,การเพาะกล้า ,สารที่อนุญาติและไม่อนุญาติให้ใช้ในการทำเกษตรอินทรีย์ ,ระบบมาตรฐานการตรวจสอบรับรอง และการขอใบรับรองพืชอินทรีย์ ฯ ทั้งหมดนี้อยู่ในส่วนแรกของหนังสือที่ถือว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่จะริเริ่มทำเกษตรอินทรีย์
ส่วนที่ 2 สูตรปุ๋ยหมัก ปุ๋ยน้ำ สารจากธรรมชาติและน้ำหมักไล่แมลงแบบอินทรีย์
ปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักฮอร์โมนพืชและน้ำหมักไล่แมลง ถือว่ามีส่วนสำคัญกับการทำเกษตรอินทรีย์เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นแร่ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช พร้อมทั้งยังมีสารขับไล่แมลงอีกด้วย โดยแบ่งออกดังนี้
เนื้อหามีการทำน้ำหมักหัวเชื้อจากพืช ,จากหอยเชอรี่ ,จากปลา ,ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพสูตรธรรมดา ,สูตรเร่งรัด ,ปุ๋ยหมักชีวภาพแบบแห้ง ,ปุ๋ยคอกหมัก ,น้ำหมักไล่แมลงสูตรทั่วไป ,สูตรเข้มข้น ,วิธีทำฮอร์โมนพืช โดยจะมีตัวอย่างจากในหนังสือ 1 สูตรเพื่อเป็นตัวอย่าง ซึ่งเนื้อหาอยู่ในส่วนที่ 2 นี้ คือ
ตัวอย่างในเล่ม น้ำหมักไล่แมลง สูตร 1
ส่วนผสม
- เมล็ดสะเดา 2 กก.
- หัวข่าแก่ 1 กก.
- ตะไคร์หอม 1 กก.
- น้ำหมักชีวภาพ 10 ลิตร
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดสับคลุกเคล้ารวมกัน ทิ้งไว้ 1-2 วัน กรองเอากากออกแล้วนำมาใช้ได้
การใช้ประโยชน์
ช่วยในการป้องกันและไล่เพลี้ยอ่อน หนอนใยผัก หนอนกระทู้ หนอนคืบ เพลี้ยไฟ ในถั่วฝักยาว ถั่วพู คะน้า ฯ
ส่วนที่ 3 วิธีปลูกผักอินทรีย์ 38 ชนิด
ถึงตรงนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์สำหรับหนังสือเล่มนี้แล้วล่ะครับ โดยจะมีวิธีการเพาะปลูกผักแบบอินทรีย์ เนื้อหารปลูกปลูกผักแต่ละชนิดจะแบ่งออกเป็น
- ลักษณะทั่วไปของผักชนิดนั้น
- การเตรียมเมล็ดเพาะพันธุ์ก่อนปลูก
- การเตรียมพื้นที่เพาะปลูก
- การปลูก
- การดูแลบำรุงรักษา
- การป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช
- การเก็บเกี่ยว
โดยจะมีตัวอย่างการปลูกพืช 1 ชนิคซึ่งเป็นเนื้อหาในส่วนนี้ คือ
ตัวอย่างในเล่ม วิธีการปลูกคะน้าแบบอินทรีย์
สรุป
ก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มปลูกพืชอินทรีย์ด้วยตัวเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้่นก่อนปลูกผู้ปลูกก็ควรมีการเตรียมปุ๋ยหมัก ปุ๋ยน้ำชีวภาพและน้ำหมักไล่แมลงไว้ให้พร้อมก่อนที่จะเพาะปลูก เพราะต้องใช้ปุ๋ยและน้ำหมักเป็นระยะ
แต่ถึงอย่างไรการเพาะปลูกนั้น เราก็ควรเลือกให้เหมาะกับตนเองมากที่สุด ไม่มีสูตรตายตัวใด ๆ จึงอาจกล่าวได้ว่า
การลงมือทำสำคัญกว่าการเรียนรู้แต่เพียงอย่างเดียว
เพราะถ้าไม่ลงมือทำ เราก็จะไม่รู้ปัญหาและวิธีแก้ไข
เราต้องเรียนรู้จากสิ่งที่เราทำให้เป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จ
ข้อดี
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผักอินทรีย์ในช่วงเริ่มต้น เพื่อเป็นแนวทางในการปลูกผักอินทรีย์ต่อไป
ข้อสังเกต
ในส่วนของเนื้อหาเป็นภาพขาวดำเกือบทั้งเล่ม จะมีภาพสีเพียง 10 หน้าเท่านั้น ส่วนเรื่องการเพาะปลูกผักอินทรีย์เราก็ต้องไปทดลองปลูกและปรับประยุกต์ใช้เพื่อให้เข้ากับตัวเราครับ ทั้งนี้เราต้องเรียนรู้และลงมือทำเองจะได้รู้แนวทางที่ดีที่สุดในการเพาะปลูกแต่ละชนิด